Translate

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตามรอยละคร เก็บสตอเบอรรี่สดๆ กันที่ม่อนแจ่ม


ทริปนี้ต่อเนื่องจาก ที่พาไปนอนนับดาว กันที่ บ้านระเบียงดาว http://kinnonontheway.blogspot.com/2013/09/blog-post_16.html เราเดินทางกันต่อ ด้วยรถ Toyota Avanza คันเดิม จำนวนผู้โดยสารเท่าเดิม คือแม่ ลูกชายเพื่อน เรา และเพื่อนสนิทอีก3คน  จุดหมายต่อไปคือ ม่อนแจ่ม เลือกเส้นทาง เชียงใหม่ แม่ริม-สะเมิง ระหว่างทางจะเห็นร้านค้ามาตั้งแผงขายสตอเบอรี่กันมากมาย เลือกเอาเลยคะ ว่าอยากอุดหนุนร้านไหน ราคาไม่น่าต่างกัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์และขนาด เห็นสตอเบอรี่แดงสดซะนานนี้แล้วพวกเราจะพลาดไม่จอดลงไปซื้อได้อย่างไร ถ้าจำราคาไม่ผิด น่าจะถุงละร้อยนะ ที่จำไม่ได้หรอกเพราะแม่จ่ายเงิน มีหน้าที่กินอย่างเดียว อิอิ
มีของกินเล่นระหว่างทาง มุ่งหน้าเดินทางกันต่อไปอีกนิด ไม่ไกลเลย ทางสบายๆ ตรงมาตามทางเรื่อยๆ เห็นโครงการหลวงหนองหอย ก็เลี้ยวขวาขับต่อไปประมาณ 6 กิโลเมตรก็จะถึงที่พักในคืนนี้ของเรา "บ้านม่อนม่วน" ถ้าใครเป็นแฟนละครช่อง3 คงจำกันได้ว่า ที่นี่ใช้ถ่ายทำละครเรื่องอะไร ใช่แล้วคะ ธรณีนี่นี้ใครครอง 










 เราเลือกมาพักที่นี่เพราะดูในละครที่นี่วิวสวย อากาศดี บ้านสวย และก็ไม่ผิดหวังจริงๆเลยคะ มุมนี้ใช้เป็นมุมของร้านอาหาร ช่วงกลางวันเปิดให้ลูกค้าด้านนอกมาใช้บริการได้ แต่ตอนเย็นที่นี่จะปิดประตู และร้านอาหหารนี้จะมีบริการเฉพาะลูกค้าที่พักที่นี่เท่านั้น ถ้าใครอยากมาชมวิวทานอาหารเย็นที่นี่ต้องแจ้งล่วงหน้านะคะ 

                                      


มาถึงก็เช็คอินกันก่อนเลย ใช่แล้วคะ เช็คอินกันที่ร้านกาแฟนี่แหล่ะคะ ไม่มีอะไรมาก แค่กรอกข้อมูลทั่วไป รับกุญแจห้อง เข้าพักได้เลยคะ 





ที่นี่มีบ้านพักทั้งหมด 8หลัง ราคาอาจจะสูงไปนิดคืนละประมาณ สามพัน จองไว้ 2หลัง บ้านม่อนตะวัน กับม่อนจันทร์แต่ก็สะดวกสบายมากๆ ชอบห้องนอนที่นี่คะ ทุกห้องนอนจะมองเห็นวิวภูเขาด้านหน้าหมด เพราะสร้างลดหลั่นกันไป บ้านที่เห็นแต่ละหลัง ทำมาจากที่เก็บข้าวของชาวนา นำมาประยุกต์ออกแบบ ผสมผสานกับวิถีชีวิตดั้งเดิม เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและสวยงามเข้าไป  เตียงนอนนุ่มสบายกำลังดี ตกแต่งด้วยมุ้งสีขาว และม่านลายดอกไม้สีขาวสะอาดตา พื้นไม้เดินแล้วเย็นสบายเท้า นี่คือหน้าตาบ้านพักของเราในคืนนี้





สำรวจห้องพัก เก็บของ พักผ่อนกันจนพอใจแล้ว ขับรถไปเที่ยวม่อนแจ่มกันต่อเลย ถึงแล้วจ้าม่อนแจ่ม ถ่ายป้ายไว้สักหน่อย ได้รู้ว่ามาจริงๆนะ 



ม่อนแจ่ม ถ้ามาในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่คนเยอะๆ จะต้องจอดรถจากด้านล่าง เป็นลานจอดรถของหมู่บ้าน เก็บเงิน 20 บาท แล้วเดินขึ้นมาอีกหน่อย สัก200 เมตร โดยประมาณ พอเหนื่อยนิดๆ แต่สองข้างทางก็จะมีชาวบ้านตั้งแผงขายของเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งผักสด ผลไม้สด สตอเบอรี่ ชา มันเผา(หวาน อร่อยมาก) เสื้อผ้า ของพื้นเมือง แต่ถ้ามาในช่วงปกติ คนไม่เยอะ ก็ขับรถขึ้นมาจอดที่ม่อนแจ่มได้เลยคะ มีที่จอดรถอยู่พอสมควร จอดปุ๊บ ถึงปั๊บเลย 


กิจกรรมสนุกๆก่อนจะเข้าไปเดินเล่นที่ม่อนแจ่ม จะมีรถล้อเลื่อน เป็นการละเล่นของชนเผ่าที่นี่ไว้บริการ เป็นของหมู่บ้านม่อนล่อง ถามว่าเล่นยากไหม ดูแล้วไม่น่ายาก อันตรายไหม ไม่อันตรายนะ เพราะแม่เรายังเล่นเลยแต่เป็นคนซ้อนนะ  แม่บอกตื่นเต้นดี 


ม่อนแจ่มถามว่าสวยเหมือนที่คาดหวังไว้ไหม บอกเลยว่าไม่สวยเท่าที่ควร แต่จุดดีของม่อนแจ่ม คือเป็นจุดพักผ่อน ชมธรรมชาติที่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มาก เดินทางสะดวก สามารถเดินทางไปกลับได้ เหมาะที่จะเป็นจุดมาแวะพัก ซื้อสตอเบอรี่ก่อนกลับเข้าเมือง มีอากาศที่เย็นสบาย มองเห็นวิว360 องศา และมีร้านอาหาร ร้านกาแฟให้นั่งพักผ่อน จิบกาแฟชิลๆ




ดอกไม้สีสันสดใส กับวิวไร่ชา





มื้อเย็นเรากลับมาฝากท้องกันที่ บ้านม่อนม่วน กะว่าจะกลับมานั่งชมพระอาทิตย์ตกซะหน่อย แต่ก็พลาดจนได้ เพราะกะเวลาผิด พระอาทิตย์ตกหลังเขา ตกไวมาก มืดเร็วด้วย เลยได้ภาพจากมุมร้านอาหาร มาแค่นี้ บ้านที่มองเห็นสองหลังนี้ คือห้องพักของพวกเรา อาหารเย็นมื้อนี้ กินฟรีอีกแล้วคะ แม่จ่ายให้ เพราะเงินกองกลางกำลังจะหมด อิอิ






 ตื่นเช้ามา กินมื้อเช้ากันที่รีสอร์ท มีให้เลือกระหว่าง ขนมปังไข่ดาว หรือข้าวต้ม ข้าวต้มเห็ดที่นี่อร่อย ชอบ
เช้านี้เราไม่ได้เร่งรีบอะไร เดินเล่นถ่ายรูปเล่นที่รีสอร์ท แล้วก็เก็บกระเป๋าเดินทางออกจากที่นี่กัน


ลืมไฮไลท์เด็ดของที่นี่ไปคะ ติดกันเลยกับบ้านม่อนม่วน มีไร่องุ่นดำ ไม่มีเมล็ด กับไร่สตอเบอรี่ด้วยคะ ย้ำว่าติดกันเลยนะ เดินออกมาซื้อได้เลย เจ้าของชาวเขาใจดีมาก ถึงมากที่สุดอะ ตอนเราไปองุ่นยังไม่สุกดีทั้งหมด ต้องรออีกสักอาทิตย์​ แต่ก็มีบางช่อที่พอสุกแล้ว สามมารถซื้อกลับมาเป็นของฝากได้ เจ้าของอนุญาติให้เข้าไปเลือกชี้เอาเลยว่าจะเอาช่อไหน แล้วเค้าก็ตัดให้ ต้องเลือกที่ลูกเป็นสีดำทั้งหมดนะถึงจะหวาน 



 ช่อใหญ่มากๆ เต็มไปหมดเลย เลือกตัดมาได้หลายโลทีเดียว

 หรือถ้าใครไม่ซื้อจะเข้ามาขอถ่ายรูปก็ได้นะ จ่ายเงิน 20 บาท เค้าจะมีมุมให้เข้ามาถ่ายรูปกับพวงองุ่น 



 จากไร่องุ่น มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นไร่สตอเบอรี่ ใช่เลยแปลงนี่แหล่ะ สามารถนำตะกร้าไปเก็บเองแล้วนำมาชั่งกิโลเองได้เลยเช่นกัน ตอนที่เราไปเค้าบอกว่าตัดไปเยอะแล้วช่วงเช้า จึงเหลือให้เก็บได้บ้าง ไม่มากเท่าไหร่ แต่มีเหรอที่เราจะพลาด การได้เก็บสตอเบอรี่สดๆจากต้นเอง ได้กันมาคนละตะกร้า ไม่มากเท่าไหร่ แต่สนุกดี เจอบางลูกที่สุกแดง ลูกใหญ่ ยังแอบกินด้วยหล่ะ อดใจไม่ไหวอ่ะ 


 



 ใช้เวลาอยู่ที่นี่กันนานมาก จ่ายเงินเสร็จก็เดินทางกันต่อ คุยกันไปคุยกันมา ทุกคนยังรู้สึกว่า ของฝากยังไม่เพียงพอ ระหว่างทางเจอร้านขายสตอเบอรี่อีก ต้องแวะซื้อเพิ่มอีก  ร้านนี้พื้นที่กว้างขวางหลายไร่เลยทีเดียว ติดลำธาร มีกาแฟขายด้วย ร้านน่ารักดี ขับผ่านไปแล้ว ต้องเลี้ยวรถกลับกันมาอีกรอบ เพราะชอบบรรยากาศริมน้ำ 







 ได้เวลาเดินทางกลับบ้านแล้วคะ ทริปสั้นๆแบบไม่ตั้งใจของพวกเราก็จบลง ช่วงเวลาเพียงแต่3วัน 3คืน กับการเที่ยวเชียงใหม่แบบสบายๆ สไตล์ครอบครัว ที่มีทั้งคนแก่และเด็ก ทุกคนสนุกสนาน มีความสุข


ฝากติดตามผลงานของ กินนอน On The Way ได้ทาง >>> https://www.facebook.com/kinnonOnTheWay







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น