ร้าน Love 2 Eat by ดีเจลูกหมี

ร้าน Love 2 Eat  เป็นร้านอาหารไทย อาหารท้องถิ่นสไตล์ภูเก็ต และร้านกาแฟนั่งเล่นสบายๆ ตัวร้านตกแต่งเน้นความสดใสน่ารัก สนุกสนาน  เป็นกันเอง มีมุมนั่งจิบกาแฟเบาๆ เม้าท์กับกลุ่มเพื่อนซี้  ถ่ายรูปอัพเฟชบุ๊คกับพี่หมี หรือจะพาครอบครัวมาอิ่มอร่อยกับอาหารรสชาติแบบแม่ทำให้กินที่บ้าน ก็ได้ทั้งนั้น

ชอบมุมไหนเลือกนั่งมุมนั้นเลยจ้า

มุมโซฟานั่งสบาย เม้าท์ไป จิบกาแฟ ทานขนม สนุกกันไป

นั่งคิด นั่งมองอะไรเรื่อยเปื่อย เชิญด้านนี้เลยค่ะ 

สนามหญ้า มุมถ่ายรูปเก๋ๆอีกมุมของร้าน ชอบพร๊อพไหน ป้ายไหน เลือกหยิบมาถ่ายรูปกันได้ค่ะ

พี่หมีตัวโต สัญลักษณ์ของร้าน ใครไปใครมาก็อยากกอดพี่หมีถ่ายรูปกันทั้งนัั้น 

ถ้ามาทานข้าว เชิญนั่งทางนี้คะ  ได้นั่งกินหมูฮ้อง แกงปูกันถนัดๆหน่อย

 จากที่นั่งพูดคุยกัน ทำให้รู้ว่าเจ้าของร้านเป็นคนรักการกิน พิถีถันเลือกหาของดีและอร่อย รับประทานเป็นประจำอยู่แล้ว พอมาเปิดร้านอาหารของตัวเอง ทุกอย่างที่บริการให้ลูกค้าล้วนออกมาจากใจจริง อยากให้ลูกค้าได้รับแต่อาหารที่ดี อร่อย เหมือนที่ตัวเองชอบ วัตถุดิบที่นำมาปรุงจึงผ่านการการคัดสรรเป็นอย่างดี ทุกขั้นตอน โดยดีเจลูกหมีเอง คงจะเริ่มหิวกันแล้ว สั่งอาหารกันเลยดีกว่า มาร้านนี้พลาดไม่ได้ เมนูนี้ "หมูฮ้อง" หมูเนื้อแดงติดมันนิดๆชิ้นโต(โตมาก) รสชาติแบบภูเก็ตแท้ๆ เหมือนที่แม่ทำให้กินที่บ้านเลยค่ะ

ตามด้วยเมนูนี้เลย "หมี่ขาวแกงปู" เนื้อปูมาเป็นก้อนๆ ที่สำคัญปูเยอะมาก เครื่องแกงก็จัดจ้าน ครบรส

ใครไม่สั่งเมนูนี้ รับลองคุณจะคุณกับเค้าไม่รู้เรื่องแน่ๆ เพราะมันเป็น Signature ของที่ร้าน ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน เชฟคิดค้นขึ้นเอง "ต้มโฮ้ว" ชื่ออาจจะฟังดูแปลก แต่มีที่มา เชฟเล่าให้ฟังว่าลองคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆแล้ว แล้วก็ได้เมนูนี้มา กินเข้าไปถึงกับร้อง โอ้วววว เลยเป็นที่มาของต้มโฮ้ว รสชาติจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ คล้ายต้มยำไม่ใส่พริก แต่หอมกลิ่นหอมกระเทียม ซดร้อนๆแล้วโล่งเลยค่ะ 

อันนี้เป็น "ปลาเกยตื้น" สั่งได้ทั้งแบบปลาเป็นตัวๆ หรือมากันไม่กี่คนจะสั่งเป็นปลาชิ้นก็ได้ค่ะ

"ลาบปลาหมึก" เป็นปลาหมึกกล้วยทอดกรอบ แล้วนำมาผสมกับเครื่องปรุงลาบ จัดจ้านเช่นกัน

"ยำเป็ดกรอบ" หน้าตาอาจดูงั้นๆเหมือนยำทั่วไป แต่รสชาติดีมากๆเลย ไม่ธรรมดา และที่สำคัญเป็ดไม่เหนียวด้วยค่ะ

อิ่มของคาวกันแล้ว นั่งย่อยกันอีกสักหน่อย ถ้าได้ขนม หรือกาแฟสักถ้วยคงจะดี  สั่งขนมอะไรอะไรทานกันดีคะ มีเค้กต่างๆให้เลือกมากมาย  เตรียมอาวุธให้พร้อม  ลุยต่อคะ

ขนมสักชิ้น กาแฟเก๋ๆสักแก้ว แค่นี้ก็พอแล้ว สำหรับช่วงเวลาพักผ่อน

เต็มอิ่มกันไปแล้ว สำหรับ รีวิวร้านสวยๆ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง เจ้าของร้านฝากมาย้ำนะคะ ว่าราคาไม่แพง แถมเจ้าของใจดีอีกต่างหาก ลองแวะกันมาชิมได้ ช่วงนี้มีโปรโมชั่น 5ช. ด้วยค่ะ

แช้ะ  เช็ค แชร์ โชว์ และชวนเพื่อนมากิน รับส่วนลดพิเศษจากทางร้านไปเลยค่ะ

สถานที่ตั้ง : อยู่ด้านข้างฮอนด้า บขส.เก่า ตรงข้ามกับการไฟฟ้า เบอร์โทร 086 9546665

ข้อดีอีกอย่างของร้านนี้คือ ที่จอดรถเยอะและสะดวกมาก 

https://www.facebook.com/pages/Love2eat/712637838763409?ref=br_tf

ฝากติดตามผลงานของ กินนอน On The Way ได้ทาง >>> https://www.facebook.com/kinnonOnTheWay

"ประเพณีถือศีลกินผัก" ภูเก็ต (5-13 ตุลาคม 2556)

ประเพณีถือศีลกินผัก  จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ถึง วันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ของจีน ปีนี้ตรงกับวันที่ 5-13 ตุลาคม 2556 เป็น 9 วันที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเมืองเล็กๆอย่างภูเก็ตมากมาย ช่างภาพและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาเพื่อร่วมบันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้

 เราจะเห็นคนทั้งเมืองร่วมใจสวมใส่ชุดขาว กินอาหารเจ ไหว้พระตามศาลเจ้า สวดมนต์ เข้าร่วมพิธีที่มีทั้ง 9 วัน เต็มไปหมด ประทัดแดงนับล้านดอกมารวมกันอยู่ที่นี่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ควันและกลิ่นดินประสิวคลุเคล้าไปทั่วเมือง พื้นถนนกลายเป็นเพลิงแดงด้วยเศษประทัด ราวกับเพิ่งผ่านศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่

"ประเพณีถือศีลกินผัก" หรือที่คนภูเก็ตเรียกว่า "เจี๊ยะฉ่าย" ตามประวัติเล่ากันมาว่า สมัยก่อนมีชาวจีนอพยพกันเข้ามาอาศัยอยู่แถวบ้านในทู หรืออำเภอกะทู้ ปัจจุบัน และได้มีคณะงิ้วจากเมืองจีนมาเข้ามาเปิดการแสดง แต่ต่อมาชาวคณะงิ้วเกิดล้มป่วยขึ้น ไม่สามารถทำการแสดงได้ พวกเขาจึงคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ทำพิธีเจี๊ยะฉ่าย ตามที่เคยทำกันมาเมื่อครั้งอยู่เมืองจีนเป็นแน่ ดังนั้น คณะงิ้วจึงจัดให้มีการประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายขึ้นที่โรงงิ้ว เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า "กิ๋วฮ๋องไต่เต่" และ "ยกอ๋องซ่งเต่" โรคภัยต่างๆก็ได้หายไปหมดสิ้น ชาวในทูเมื่อเห็นดังนั้น จึงเกิดความเลื่อมใสและได้ถือปฎิบ้ติ โดยมีคนอาสาไปอัญเชิญเหี่ยวโห้ย หรือเหี่ยวเอี้ยน(ควันธูป)และ เลี่ยนตุ่ย(ป้ายชื่อ) พร้อมทั้งคัมภีร์ต่างๆที่ใช้ในพิธีกินผัก ที่มณฑลกังไส ประเทศจีน เพื่อประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายที่ถูกต้อง

ก่อนจะถึงวันเจี๊ยะฉ่ายหนึ่งวัน จะมีพิธียกเสาโกเต้ง หน้าศาลเจ้า เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญเจ้า “ ยกอ๋องซ่งเต่ ” (พระอิศวร) และ “ กิ๋วอ๋องไต่เต่ ” (ผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้า) มาเป็นประธานในพิธี โดยการนำตะเกียงน้ำมัน 9 ดวง แขวนบนเสาสูง ปลายไม้เป็นไม้ไผ่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ ของการเริ่มพิธีเจี๊ยฉ่ายในวันรุ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลา 9วัน9คืน ทุกศาลเจ้าจะประกอบพิธีกรรมต่างๆ
 พิธีอัญเชิญลำเต้า - ปักเต้า (เทวดาผู้ถือบัญชีคนเกิดและคนตาย)
 พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ)โดยมีม้าทรง และขวบนเก๊ว แห่ไปตามถนน และมีชาวบ้านตั้งโต๊ะบูชา เพื่อศิริมงคล
พิธีโก่ยอิ๋วเตี้ย(อาบน้ำมันเดือด)
พิธีคี่โต่วทุ่ย(ปีนบันไดมีด)
พิธีโก้ยโห้ย (ลุยไฟ) 
พิธีโก้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์) 
และพิธีส่งพระ จะทำกันในคืนสุดท้ายของการกินผัก ถือเป็นการส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ 

และวันต่อมาจะมีการอันเชิญตะเกียงน้ำมันทั้ง 9 ดวง ลงจากเสาโกเต้ง 
การทำพิธีเหล่านี้ จะมีม้าทรงเป็นผู้ประกอบพิธี โดยม้าทรงเหล่านี้จะแสดงอิทธิฤทธ์ ด้วยการทรมานร่างกายตัวเองในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเชื่อกันว่าการทำเช่นนี้ก็เพื่อรับทุกข์แทนผู้ที่ถือศีลกินผัก ผู้ที่จะมาเป็นม้าทรงได้นั้น จะต้องได้รับการคัดเลือกจากเทพเจ้า มีด้วยกัน 2 กรณี คือ

1. ผู้ที่ชะตาขาดแต่ยังไม่ถึงฆาต การเป็นม้าทรงเปรียบเหมือนการต่อช่วยอายุขัย
2. ผู้ที่พระเห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม

การกินเจ  เราต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ทุกชนิด และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ

หอมทุกชนิด   กระเทียม หลักเกียว กุ้ยช่าย ใบยาสูบ

ข้อควรปฏิบัติ 10 ประการ สำหรับผู้ถือศีลกินผัก

1. ชำระร่างกายให้สะอาดตลอดช่วงเทศกาล
2. ทำความสะอาดเครื่องครัวและแยกใช้คนละส่วนกับผู้ที่ไม่ได้ถือศีลกินผัก
3. ควรสวมชุดขาวตลอดช่วงเทศกาลกินผัก
4. ประพฤติตนดีทั้งกายและใจ
5. ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์
6. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเทศกาล
7. ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา
8. ผู้ที่อยู่ระหว่างไว้ทุกข์ไม่ควรร่วมเทศกาลกินผัก
9. หญิงมีครรภ์ไม่ควรดูพิธีกรรมใดๆ ในช่วงเทศกาล
10. หญิงมีประจำเดือนไม่ควรร่วมพิธีกรรมใดๆ ในช่วงเทศกาล 
    
    
    

มื้อเที่ยงไปฝากท้องที่นี่ "ร้านข้าวมันไก่นครสวรรค์"เจ้าเก่า ห้าแยกฉลอง

ร้านข้าวมันไก่นครสวรรค์

เช้านี้มาถ่ายรูปที่แถวห้าแยกฉลองภูเก็ต เลยแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้านข้าวมันไก่นครสวรรค์ เลี้ยวไปทางกะตะ เพียงร้อยเมตร ก็จะเห็นร้านนี้ มีเพื่อนแนะนำมาว่า ตีนไก่ซุปเปอร์อร่อย เลยจัดซะหน่อย

ร้านนี้เค้าขายพวกข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู และตีนไก่ซุปเปอร์รสต้มยำ และแบบแห้ง

 สั่งข้าวหมูกรอบไป อร่อยใช้ได้คะ โดยเฉพาะน้ำจิ้ม ใส่หมดถ้วยเลย

อันนี้เป็นตีนไก่ซุปเปอร์แบบแห้ง ไม่เคยกินแบบนี้ แต่ก็อร่อยดี ทานกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของป้าเค้าเข้ากันดีเหมือนกันนะ

ตีนไก่ซุปเปอร์ของร้านป้าแอ๋ว เค้าจะเอาตีนไก่ไปทอดให้สุกหอมก่อนแล้วเอามาตุ๋นแบบทั้งวันทั้งคืน ไปเรื่อยๆลูกค้าจะมากินตอนไหนก็จะได้ตีนไก่ที่เปื่อยนุ่ม ละลายในปาก กระดูกก็ละลายนะคะ จริงๆ

โฉมหน้าเจ้าของร้านคะ ป้าแอ๋ว ใจดีมากๆ และที่สำคญอัธยาศัยดีกับลูกค้าทุกคนเลย ไปครั้งแรกเองก็ประทับใจในความใส่ใจลูกค้าของป้าเค้าแระ(ไม่รู้หนูถ่ายรูปป้า สวยถูกใจป้ารึป่าวคะ)

ร้านตั้งอยู่ห้าแยกฉลองภูเก็ต เลี้ยวไปทางกะตะ ใครอยู่แถวนั้น หรืออยากลองแวะไปชิมก็เชิญได้เลย ป้าเค้ายินดีต้อนรับทุกคน หรือจะโทรสั่งล่วงหน้าก็ที่ 087-6293303 ได้เลยจ้า 

( แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ ) เชิญร่วมพิธีเปิดศาลเจ้ากวนอู นาบอน หลังใหม่

พิธีเปิดศาลเจ้ากวนอูหลังใหม่

ประวัติ :: ศาลเจ้ากวนอูเริ่มตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 130 ปีที่แล้วบริเวณแห่งนี้เป็นคลองอยู่ใกล้ทะเล ได้มีชาวจีนนั่งเรือสำเภามาขึ้นฝั่งบริเวณนี้พร้อมทั้งนำรูปเหมือนเทพเจ้ากวนอู ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมติดตัวมาด้วย ได้สร้างบ้านหลังเล็กๆไว้เป็นที่พัก และกราบไหว้บูชาองค์เทพเจ้ากวนอู ต่อมาชาวจีนผู้นั้นก็หายเหลือแต่รูปเหมือนเทพเจ้ากวนอูไว้ ชาวบ้านที่พบเห็นได้กราบบูชาขอพร แล้วประสบผลสำเร็จ ทำให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้มีการรวบรวมเงินสร้างเป็นศาลเจ้าขึ้นมา เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสูงประมาณ1เมตร ส่วนบนเป็นไม้ หลังคามุงจาก เพื่อให้คนมากราบไหว้ และหลังจากนั้นไม่นานมีจอมปลวกขนาดใหญ่เกิดขึ้นด้านในตัวอาคารทั้ง 4 ทิศ แต่อาคารไม้ส่วนบนมิได้ถูกทำลายโดยปลวกแต่อย่างใด

ในปี 2549 ได้รับพิธีถือศีลกินผักขึ้นเป็นครั้งแรก และสืบทอดเรื่อยมา แต่เนื่องจากศาลเจ้าหลังเดิมนั้นเล็กและทรุดโทรมมากทางคณะกรรการจึงมีมติร่วมกันที่จะจัดสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ขึ้นมาแทฯศาลเจ้าหลังเดิม ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจาชาวบ้านร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้าง 

ศาลเจ้าที่นี่มีความสวยงามมาก โดยเฉพาะมังกรที่อยู่ในศาลเจ้า รู้สึกเหมือนมีชีวิต ดูแววตามีพลังมากๆ (ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว) 

ในวันที่ 17-21 กันยายน 2556 นี้ ทางศาลเจ้าจะทำพิธีเปิดศาลเจ้า ตามตารางเวลานี้

แผนที่เส้นทางขบวนแห่พิธีอิ้วเก้ง รอบเมืองภูเก็ต

ขอบคุณข้อมูลจากศาลเจ้ากวนอูนาบอน ภูเก็ต

ร้าน "Rendez-vous coffee wine dine"

Rendez-Vous coffee wine dine

ร้านอาหารลูกผสมระหว่าง International fuision กับอาหารไทย หน้าตาสวยงาม ที่เจ้าของร้านบรรจงออกแบบและตกแต่งที่นี่ให้รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นที่นัดพบของกลุ่มเพื่อนสนิท ที่จะสามารถมานัดพบทานอาหารกันบ่อยๆ และยังมีความโรแมนติคแฝงไว้ เพื่อคู่รักที่อยากหลบหนีความวุ่นวาย ได้ทานอาหารอร่อย ไวน์รสเลิศ เคล้าเสียงเพลงเพราะๆ

มุมด้านนี้เหมาะสำหรับคู่รัก กระหนุงกระหนิง

หรือใครจะชอบบรรยากาศแบบ open air ด้านหลังของร้านเราก็มีบริการ

แต่งง่ายๆแต่ดูดี

ชั้นสองมีโต๊ะพูลไว้ให้เล่นผ่อนคลาย

กับโซฟาเหลือง มุมนั่งสบายๆ

จากชั้นสองมองลงมาเห็นบรรยากาศภายในร้าน

ลองดูเมนูอาหารกันบ้าง ออเดิฟสวยๆ สไตล์ไทยๆ กินแล้วรวย ถุงทอง

จานนี้เป็น พราม่าแฮมเสิร์ฟพร้อมเมลอนหวานๆชื่นใจ เข้ากันดีมากๆ

ใครที่ชอบผักโขม และชีส แนะนำจานนี้เลยคะ ผักโขมอบชีส ผักโขมเยอะๆ ชีสเน้นๆ

เมนูแนะนำของร้านเลยนะ Dirty chick ไก่ครึ่งตัวทอดกรอบ ราดน้ำซอส แต่ถ้าใครชอบรสเผ็ดนิดๆแนะนำให้ขอน้ำจิ้มแจ่วของที่ร้านเลยคะ รับรองเด็ด

หรือใครที่ชอบทานเนื้อหมู ต้องจานนี้เลยคะ Pork rolls เป็นเนื้อหมูสไลด์ทุบจนบาง แล้วเอามาม้วน

จานนี้เพื่อสาวๆที่รักสุขภาพเลยจ้า สลัดอโวคาโด

แนวอาหารไทยกันบ้าง น้ำตกหมูจิ้มแจ่วรสแซ่บ รสชาติดีจริงๆนะ จานนี้ชอบเลย

มีไวน์ให้เลือกหลากหลายพอสมควร หรือถ้าใครอเป็นคอกาแฟ ก็ไม่น่าพลาดกาแฟที่นี่เหมือนกัน

มอคค่าร้อนแก้วนี้ชิมแล้วถึงกับติดใจ

หรือถ้าอยากได้น้ำสีสวยๆ เค้าก็มีให้นะ

ช่วงนี้มีโปรโมชั่น happy hours ด้วยนะ สั่งเครื่องดื่ม 1 แก้วฟรี 1 แก้ว เลยจ้า

ภาพด้านหน้าร้าน ใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ลองแวะเข้าไปทานอาหารอร่อยๆได้นะคะ ที่สำคัญเจ้าของร้านย้ำมาว่าราคาไม่แพง เพราะต้องการให้ลูกค้าได้มาใช้บริการบ่อยๆเหมือนเป็นที่พบปะของเพื่อน

แวะมาใช้บริการกันได้นะคะ เปิดตั้งแต่เที่ยงวันถึงเทีี่ยงคืน ร้านหาไม่ยากคะ ถนนตะกั่วป่า ติดกับอู่กระจ่างการช่าง เบอร์โทรศัพท์ 081-8941603

ฝากติดตาม กินนอน On The Way ด้วยนะคะ 

>> https://www.facebook.com/kinnonOnTheWay

เราจะพยายามสรรหาที่กิน ที่นอน ที่เที่ยวสวยๆ มาฝากอีกคะ