Translate

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

"ประเพณีถือศีลกินผัก" ภูเก็ต (5-13 ตุลาคม 2556)



ประเพณีถือศีลกินผัก  จัดขึ้นระหว่างวันขึ้น ค่ำ เดือน ถึง วันขึ้น ค่ำเดือน ของจีน ปีนี้ตรงกับวันที่ 5-13 ตุลาคม 2556 เป็น 9 วันที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเมืองเล็กๆอย่างภูเก็ตมากมาย ช่างภาพและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาเพื่อร่วมบันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้

 เราจะเห็นคนทั้งเมืองร่วมใจสวมใส่ชุดขาว กินอาหารเจ ไหว้พระตามศาลเจ้า สวดมนต์ เข้าร่วมพิธีที่มีทั้ง 9 วัน เต็มไปหมด ประทัดแดงนับล้านดอกมารวมกันอยู่ที่นี่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ควันและกลิ่นดินประสิวคลุเคล้าไปทั่วเมือง พื้นถนนกลายเป็นเพลิงแดงด้วยเศษประทัด ราวกับเพิ่งผ่านศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่






"ประเพณีถือศีลกินผัก" หรือที่คนภูเก็ตเรียกว่า "เจี๊ยะฉ่าย" ตามประวัติเล่ากันมาว่า สมัยก่อนมีชาวจีนอพยพกันเข้ามาอาศัยอยู่แถวบ้านในทู หรืออำเภอกะทู้ ปัจจุบัน และได้มีคณะงิ้วจากเมืองจีนมาเข้ามาเปิดการแสดง แต่ต่อมาชาวคณะงิ้วเกิดล้มป่วยขึ้น ไม่สามารถทำการแสดงได้ พวกเขาจึงคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ทำพิธีเจี๊ยะฉ่าย ตามที่เคยทำกันมาเมื่อครั้งอยู่เมืองจีนเป็นแน่ ดังนั้น คณะงิ้วจึงจัดให้มีการประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายขึ้นที่โรงงิ้ว เพื่อบวงสรวงเทพเจ้า "กิ๋วฮ๋องไต่เต่" และ "ยกอ๋องซ่งเต่" โรคภัยต่างๆก็ได้หายไปหมดสิ้น ชาวในทูเมื่อเห็นดังนั้น จึงเกิดความเลื่อมใสและได้ถือปฎิบ้ติ โดยมีคนอาสาไปอัญเชิญเหี่ยวโห้ย หรือเหี่ยวเอี้ยน(ควันธูป)และ เลี่ยนตุ่ย(ป้ายชื่อ) พร้อมทั้งคัมภีร์ต่างๆที่ใช้ในพิธีกินผัก ที่มณฑลกังไส ประเทศจีน เพื่อประกอบพิธีเจี๊ยะฉ่ายที่ถูกต้อง






ก่อนจะถึงวันเจี๊ยะฉ่ายหนึ่งวัน จะมีพิธียกเสาโกเต้ง หน้าศาลเจ้า เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญเจ้า “ ยกอ๋องซ่งเต่ ” (พระอิศวร) และ “ กิ๋วอ๋องไต่เต่ ” (ผู้เป็นใหญ่ทั้งเก้า) มาเป็นประธานในพิธี โดยการนำตะเกียงน้ำมัน 9 ดวง แขวนบนเสาสูง ปลายไม้เป็นไม้ไผ่ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ ของการเริ่มพิธีเจี๊ยฉ่ายในวันรุ่งขึ้น


ตลอดระยะเวลา 9วัน9คืน ทุกศาลเจ้าจะประกอบพิธีกรรมต่างๆ
 พิธีอัญเชิญลำเต้า - ปักเต้า (เทวดาผู้ถือบัญชีคนเกิดและคนตาย)
 พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระ)โดยมีม้าทรง และขวบนเก๊ว แห่ไปตามถนน และมีชาวบ้านตั้งโต๊ะบูชา เพื่อศิริมงคล
พิธีโก่ยอิ๋วเตี้ย(อาบน้ำมันเดือด)
พิธีคี่โต่วทุ่ย(ปีนบันไดมีด)
พิธีโก้ยโห้ย (ลุยไฟ) 
พิธีโก้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์) 
และพิธีส่งพระ จะทำกันในคืนสุดท้ายของการกินผัก ถือเป็นการส่งเทพเจ้ากลับสู่สวรรค์ 

และวันต่อมาจะมีการอันเชิญตะเกียงน้ำมันทั้ง 9 ดวง ลงจากเสาโกเต้ง 
การทำพิธีเหล่านี้ จะมีม้าทรงเป็นผู้ประกอบพิธี โดยม้าทรงเหล่านี้จะแสดงอิทธิฤทธ์ ด้วยการทรมานร่างกายตัวเองในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเชื่อกันว่าการทำเช่นนี้ก็เพื่อรับทุกข์แทนผู้ที่ถือศีลกินผัก ผู้ที่จะมาเป็นม้าทรงได้นั้น จะต้องได้รับการคัดเลือกจากเทพเจ้า มีด้วยกัน 2 กรณี คือ
  1. ผู้ที่ชะตาขาดแต่ยังไม่ถึงฆาต การเป็นม้าทรงเปรียบเหมือนการต่อช่วยอายุขัย
  2. ผู้ที่พระเห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม


การกินเจ  เราต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ทุกชนิด และผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ
หอมทุกชนิด   กระเทียม หลักเกียว กุ้ยช่าย ใบยาสูบ

ข้อควรปฏิบัติ 10 ประการ สำหรับผู้ถือศีลกินผัก
  1. ชำระร่างกายให้สะอาดตลอดช่วงเทศกาล
  2. ทำความสะอาดเครื่องครัวและแยกใช้คนละส่วนกับผู้ที่ไม่ได้ถือศีลกินผัก
  3. ควรสวมชุดขาวตลอดช่วงเทศกาลกินผัก
  4. ประพฤติตนดีทั้งกายและใจ
  5. ห้ามบริโภคเนื้อสัตว์
  6. ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเทศกาล
  7. ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา
  8. ผู้ที่อยู่ระหว่างไว้ทุกข์ไม่ควรร่วมเทศกาลกินผัก
  9. หญิงมีครรภ์ไม่ควรดูพิธีกรรมใดๆ ในช่วงเทศกาล
  10. หญิงมีประจำเดือนไม่ควรร่วมพิธีกรรมใดๆ ในช่วงเทศกาล 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น